top of page

อาหารมังสวิรัติเพื่อสุขภาพที่ดีกว่า - Vegetarianism for Better Health

                 มังสวิรัติ (กินเจ)เพื่อสุขภาพและอายุยืนยาว 
              ( Vegetarians Have Better Health and Longer Life )                            
               น.พ. โชติช่วง ชุตินธร  Dr Chokchuang Chutinaton

มีงานวิจัยที่เชื่อถือได้รายงานว่าคนที่รับประทานอาหารมังสวิรัติที่เป็นเพศชายจะมีอายุยืนยาวขึ้น 8 ปีกว่า และเพศหญิงจะมีอายุยืนยาวขึ้น 7 ปี กว่า เมื่อเทียบกับคนที่ไม่กินอาหารมังสวิรัติ****

คนทั่วไปมักเข้าใจว่า ถ้าไม่กินเนื้อสัตว์จะไม่แข็งแรง และเป็นโรคขาดอาหาร   แต่ความเป็นจริงปรากฏว่า คนที่กินอาหารมังสวิรัติ  มีสุขภาพสมบูรณ์กว่า  และไม่เป็นโรคขาดอาหาร กลับจะเป็นโรคน้อยกว่าด้วย เช่น  โรคหัวใจวาย  โรคมะเร็ง  โรคพยาธิ  และโรคที่ติดเชื้อจากสัตว์

อาหารมังสวิรัติมิได้มีไว้เฉพาะสำหรับกลุ่มคนที่ถือศีล  หรือเคร่งครัดในเรื่องศาสนาเท่านั้น   แต่ปัจจุบันคนทั่วโลกหลายล้านคนหันมากินอาหารมังสวิรัติ  เพื่อสุขภาพเป็น  เหตุผลใหญ่

นักมังสวิรัติ  จำแนกได้ 4 ประเภท

1. กินธัญพืช (ข้าวหรือข้าวกล้อง) ถั่ว พืชผักและผลไม้ (Vegan)
2. กินเหมือนข้อ 1 แต่ดื่มนมด้วย ( Lacto-vegetarian)
3. กินเหมือนข้อ 1 แต่ดื่มนมและกินไข่ด้วย(Lacto-ova-vegetarian)  4 กินเหมือนข้อ 1 แต่ งด กุยช่าย ต้นหอม ผักชี ( กินเจ)

ประมาณ 500 ปีก่อน นักวิทยาศาสตร์และคนส่วนมาก   คิดว่าโลกแบน มีเพียงคนกลุ่มน้อยที่เชื่อว่าโลกกลม  เช่น  โคลัมบัส ซึ่งกล้าเสี่ยงชีวิตเพื่อพิสูจน์ให้ชาวโลกได้รู้ว่าที่แท้โลกเรากลม   โดยแล่นเรือจนค้นพบอเมริกาแต่กระนั้นต้องอาศัยเวลานานกว่าคนทั่วไปจะยอมรับในความจริงข้อนี้  ก็เช่นเดียวกันกับสมัยนี้ที่คนส่วนใหญ่ยังคิดว่า  การกินอาหารมังสวิรัติ  จะทำให้ร่างกายไม่แข็งแรงเท่ากับคนที่กินเนื้อสัตว์ ทั้งที่ในต่างประเทศ หรือแม้แต่ในเมืองไทยเองก็มีแพทย์ และนักโภชนาการหลายท่านยืนยันว่าคนกินอาหารมังสวิรัติไม่มีปัญหาด้านการเจริญเติบโตหรือด้านสุขภาพเลย  เพราะมีหลักฐานชัดเจนอยู่ใน 2 ข้อ ต่อไปนี้ คือ
1.หลักฐานทางโภชนาการ  หรือทางวิทยาศาสตร์
2.หลักฐานจากชีวิตจริงของนักมังสวิรัติ

ข้อ 1   มีหลักฐานทางโภชนาการ พิสูจน์ แล้วว่า  อาหารมังสวิรัติมีคุณค่าทางธาตุอาหารครบทุกหมู่ โปรตีนในถั่วเหลืองและถั่วต่างๆ   ตลอดจนธัญพืช มีคุณภาพเท่าเทียมกับเนื้อสัตว์  จึงไม่ต้องห่วงว่า คนกินอาหารมังสวิรัติ จะได้โปรตีนไม่เพียงพอ  โปรตีนบางชนิดที่ถั่วมีน้อยนั้น  เราจะเสริมได้ง่ายๆโดยการกินอาหารประเภทข้าว ซึ่งมีโปรตีนที่สำคัญจำนวนมาก คือ เมไธโอนิน  methionine  การกล่าวอ้างที่ว่าโปรตีนจากถั่วเป็นโปรตีนที่ไม่สมบูรณ์ (incomplete protein)  และเนื้อสัตว์เป็นโปรตีนที่สมบูรณ์ (complete protein) นั้นไม่ค่อยถูกต้องเพราะในทางปฏิบัติไม่มีใครไม่กินข้าว ดังนั้น การกินโปรตีนจากถั่วและข้าว ก็จะได้โปรตีนที่สมบูรณ์ทดแทนกันได้จึงไม่มีปัญหา

 

ในการประชุมนักโภชนาการนานาชาติครั้งที่ 6 ที่ประเทศอังกฤษมีรายงานตามหลักโภชนาการออกมาว่า การรวมตัวของโปรตีนจากพืชต่างชนิดกันจะทำให้ได้โปรตีนไม่ต่างจากโปรตีนที่ได้จากสัตว์เลย

ส่วนที่เด็กกินอาหารมังสวิรัติจะได้โปรตีน และสารอาหารต่างๆ เพียงพอหรือไม่นั้น คำตอบคือ  “ ไม่มีปัญหา” เพราะเด็กที่กินอาหารมังสวิรัติใช่ว่าจะกินพืชผักทันทีที่ลืมตาดูโลก   เด็กจะดื่มนมแม่ก่อน  (หรือไม่ก็นมผง) พอโตขึ้นมาหน่อยก็เริ่มกินข้าว  พืชผัก  และถั่วบด  และผลไม้ เช่น ส้ม กล้วย  แต่เด็กก็ยังดื่มนมต่อไปเรื่อยๆ เด็กที่กินอาหารมังสวิรัติมักจะดื่มนมหรือนมถั่วเหลือง (น้ำเต้าหู้) ตลอดไป  ในขณะที่กินไข่(มีโปรตีนสูง) ถั่ว  ด้วย  ความกังวลที่ว่า เด็กจะขาดสารหรือธาตุอาหารจึงเป็นอันตัดไปได้

ข้อ 2   หลักฐานจากชีวิตจริงของนักมังสวิรัติ  เด็กหรือผู้ใหญ่ที่กินอาหารมังสวิรัติ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด  มีความเฉลียวฉลาดเหมือนคนที่กินเนื้อสัตว์  สมองเจริญเติบโตดีเหมือนกันและอาจจะดีกว่าเสียด้วย  จะเห็นได้จากประวัติศาสตร์ที่มีคนเก่งๆ  ของโลกเป็นนักมังสวิรัติ  เช่น  เลียวนาโด  ดาวินซี, เซอร์ไอแซค นิวตัน,  มหาตมะคานธี และนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิก อีกหลายท่าน เช่น Carl Lewis  นักวิ่ง 9  เหรียญทอง  Murray Rose นักว่ายน้ำ 6 เหรียญทอง และ Paavo Nurmi  นักวิ่ง 9 เหรียญทอง หรือดูกันง่ายๆคือชนชาติ ต่างๆ เช่นที่ อินเดีย มี ชาวซิกข์  ฮินดู  แยนหรือที่ อเมริกามีคริสเตียนคณะเซเว่นเดย์แอ็ดเวนตีสซึ่งกินอาหารมังสวิรัติกันมาหลายชั่วอายุคนแล้ว  เขาไม่มีปัญหา  ถ้ามีปัญหาเขาก็คงสูญพันธ์ไปแล้วแต่ปรากฎว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีมากขึ้นด้วยซ้ำ

 ผัก เป็นอาหารจำเป็นสำหรับทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักมังสวิรัติหรือไม่   แต่ก็มีบางคนไม่ค่อยกินผักเสียเลย  เขาก็จะขาดแร่ธาตุต่างๆตลอดจนกากใยที่มีอยู่ในผัก ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้ท้องผูก   และช่วยไม่ให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ บางคนกลัวยาฆ่าแมลงตกค้างในผักก็เลยไม่ค่อยกล้ากินผัก  ทางที่ถูกคือ อย่าเลือกซื้อผักที่สวยงามเกินไป มีรอยหนอนเจาะกินบ้างก็ยิ่งดี ต้องล้างผักในน้ำที่ไหลริน  หลายๆครั้ง  เพื่อให้น้ำชะล้างยาฆ่าแมลงออกไป  หรือเลือกซื้อผักปลอดสารพิษหรือถ้าทำได้ก็ปลูกผักสวนครัวเองหรือถ้าไม่มีพื้นที่ก็ปลูกในกระถางหรือปลูกแบบแขวนก็ได้

นักวิจัยในสหรัฐอเมริกา ได้ค้นพบว่าเนื้อสัตว์ต่างๆที่คนนำมาบริโภคมียาฆ่าแมลงมากกว่าพืชผัก  บางทีมากกว่าถึง 13 เท่า  ที่เป็นเช่นนี้เพราะสัตว์ต่างๆ ก็กินพืชผัก  หรือหญ้าที่มียาฆ่าแมลงเข้าไป   ยิ่งอายุของสัตว์ยืนนานเท่าใด ก็ยิ่งสะสมไว้มากเท่านั้น
                                                                        
ดร. จี  เอส  ฮันติงตัน  แห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย  ในสหรัฐอเมริกา  ได้ศึกษาระบบย่อยและฟันของมนุษย์  และยืนยันว่า  มนุษย์เรามีระบบย่อยและฟัน ที่เหมาะสมที่จะย่อยหรือบดเคี้ยวพืชผักมากกว่าเนื้อสัตว์

ปัจจุบันเมืองไทยเรายังมีเด็กและผู้ใหญ่เป็นโรคขาดอาหาร และอาหารมีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆดังนั้นการกินอาหารมังสวิรัติจะเป็นวิธีหนึ่งที่แก้ปัญหาการขาดแคลนอาหารและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของครอบครัวเพราะอาหารพืชผักและถั่วราคาถูกกว่าเนื้อสัตว์

โปรตีนในเนื้อสัตว์มีราคาเป็นประมาณ 4  หรือ 6  เท่าของโปรตีนในถั่วเหลือง  เช่น  เนื้อวัวหรือเนื้อหมู 1 กิโลกรัม ราคาประมาณ 120 บาท  ส่วนถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม ประมาณ 40 บาท แต่ ถั่วเหลืองให้โปรตีนเป็น 2 เท่าของเนื้อสัตว์  ( ส่วนคุณภาพทางโปรตีนเท่าเทียมกัน  เมื่อกินข้าวด้วย )

ถ้าคนมีรายได้น้อยจะเลิกเห่อหรือหลงค่านิยมของการกินเนื้อสัตว์ ที่ต้องเอาเงินที่หามาได้ด้วยความยากลำบาก ไปซื้อเนื้อสัตว์ที่มีราคาแพงมากิน  แต่หันมาพึ่งถั่วเหลืองหรือถั่วเมล็ดแห้งต่างๆหรือเต้าหู้ ก็จะได้อาหารที่มีประโยชน์ในราคาประหยัดกว่ามาก (ไข่เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง ราคาถูก คุณค่าไม่แพ้เนื้อสัตว์ ส่วนน้ำนมถั่วเหลืองหรือที่เรียกว่าน้ำเต้าหู้มีคุณค่าทางโภชนาการสูงใช้ดื่มแทนนมได้และมีราคาถูกกว่านมสดมาก)       
 น้ำนมแม่เป็นนมธรรมชาติซึ่งเป็นนมที่ดีที่สุดสำหรับทารก นม(วัว)เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นและไม่ใช่อาหารธรรมชาติ  เด็ก (อายุมากกว่า 1 - 2 ขวบ หรือเด็กมีฟันสำหรับบดเคี้ยวอาหารแล้ว และผู้ใหญ่ ไม่จำเป็นต้องดื่มนม(วัว) ก็แข็งแรงได้และเจริญเติบโตได้ดี เพราะอาหารโปรตีนมีเพียงพอในอาหารประจำวันอยู่แล้ว  นมมีราคาแพงและมีเชื้อโรคปะปนง่าย ทำให้เกิดโรคต่างๆได้ เช่น โรควัณโรค และโรคท้องร่วงที่อันตราย เป็นต้น  

คนกินอาหารมังสวิรัตไม่จำเป็นต้องหาซื้อวิตามินต่างๆมาเสริมเพราะวิตามินและเกลือแร่มีครบถ้วนเพียงพอในอาหารธรรมชาติที่พระเจ้าสร้างแล้ว***พระเจ้าสร้างโลกและมนุษย์คู่แรกคืออาดัม กับอี๊ฟภายใน 7 วัน และให้อาศัยอยู่ในสวนเอเดนและให้กินผลไม้เป็นอาหาร พระเจ้าไม่ได้อนุญาตให้กินเนื้อสัตว์  จึงไม่ต้องห่วงว่าจะขาดสาร อาหารและวิตามิน คนสมัยก่อนน้ำท่วมโลก Noah’s Flood มีอายุยืนมากประมาณ 950 ปี    หลังจากน้ำท่วมโลกสมัยเรือโนอาห์ พระเจ้าจึงอนุญาติให้คนกินเนื้อสัตว์ได้ แต่อายุขัยของคนก็ลดสั้นลงเหลือประมาณ 100 ปี***


 การกินวิตามินและเกลือแร่และอาหารเสริมมีผลเสียและอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขาพถ้าร่างกายมีเพียงพออยู่แล้วจากอาหารธรรมชาติที่พระเจ้า ประทานให้อย่างสมบูรณ์แล้ว  ตามหลักวิชาการและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ การกินวิตามินและเกลือแร่มากหรือเกินความต้องการของร่างกาย (จะเกิด toxicity) ก็ต้องมีการขับถ่ายทิ้งเป็นการเพิ่มงานให้กับตับและไตในการกำจัดของเสียหรือส่วนเกินทิ้ง บางครั้งร่างกายก็ไม่สามารถขับถ่ายส่วนเกิน(หรือ “สารพิษ”)ออกได้หมดและเหลือสะสมในตับหรืออวัยวะอื่นๆและในที่สุดก็จะเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ แถมต้องเสียเงินที่หามาด้วยความยากลำบากไปซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น


              ในต่างประเทศได้มีผู้เชี่ยวชาญคำนวณแล้วว่าคนกินเนื้อสัตว์ 1 คน ต้องใช้เนื้อที่ประมาณ 4  ไร่ ที่จะผลิตอาหารให้เขากิน  แต่ถ้าเขากินแต่พืชผัก  จะใช้เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ เท่านั้น  ดังนั้น เราจะมีที่ดินเหลือไปผลิตอาหาร ต่างๆได้มากขึ้น

มีการวิจัยเปรียบเทียบอัตราการตายของกลุ่มชาวแอ๊ดเวนตี๊สที่กินมังสวิรัติ กับ ชาวแคลิฟอร์เนียทั่วไป ในสหรัฐอเมริกา USA ที่กินเนื้อสัตว์:****

  • อัตราการตายจากโรคมะเร็งทุกชนิด  เป็น  น้อยกว่า 40%  ในชาวแอ๊ดเวนตี๊สชาย และ 24% น้อยกว่า ในชาวแอ๊ดเวนตี๊สหญิง

  • มะเร็งปอดน้อยกว่า 79%; มะเร็งลำไส้ใหญ่ น้อยกว่า 38%

  • มะเร็งเต้านม น้อยกว่า 15%

  • โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ 34%น้อยกว่า  ในแอ๊ดเวนตี๊สชาย    และ 2% น้อยกว่าในชาวแอ๊ดเวนตี๊สหญิง

 

สรุป  การกินอาหารมังสวิรัติ  ดีกว่าการกินเนื้อสัตว์มาก  เพราะ

1. ประหยัดกว่า    อาหารพืชผัก ( มังสวิรัติ) ถูกกว่าเนื้อสัตว์   แต่มีคุณค่าทาง อาหารเท่าเทียมกันหรือดีกว่า
2.  มีสุขภาพแข็งแรงกว่า     เนื้อสัตว์มีไขมันอิ่มตัวมาก (คอเรสเตอรอล)ซึ่งเป็นตัวทำให้เกิดโรคหัวใจวายง่ายขึ้น   คนกินเนื้อสัตว์จะมีโอกาสเป็น โรคมะเร็ง  โรคพยาธิ  และโรคต่างๆ เช่น โรควัวบ้า โรคไข้หวัดนก ไข้หวัดใหญ่หมู และโรคอื่นๆที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสที่ติดต่อได้จากสัตว์มากกว่าคนที่กินมังสวิรัติ   ส่วนคนที่ไม่สูบบุหรี่   ไม่ดื่มเหล้า ออกกำลังกาย และรับประทานอาหารมังสวิรัติเป็นประจำจะมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งต่างๆ น้อยกว่าคนที่รับประทานอาหารเนื้อสัตว์ และเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ(รวมทั้งโรคหัวใจวาย) น้อยกว่า 50% และเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคเส้นเลือดในสมองตีบและแตก น้อยกว่า  และจะมีชีวิตที่ยืนยาวกว่า  4 -10 ปี**      

โปรดมั่นใจว่า การกินมังสวิรัติ จะทำให้มีสุขภาพดี และมีอายุยืนยาว ไม่เพียงแต่เท่านั้น ด้านสติปัญญาและจิตใจก็จะดีขึ้นด้วย                          

 


               จะกินอาหาร มังสวิรัติ ได้อย่างไร ?      น.พ.โชติช่วง ชุตินธร                                               
การกินอาหารมังสวิรัติง่ายมากไม่จำเป็นต้องมีความรู้  หรือการศึกษา และก็ไม่จำเป็นต้องรู้ว่า  อาหารชนิดใดที่มีกี่แคลอรี่หรือคุณค่าทางอาหารเท่าไร  ขอให้ปฏิบัติตาม 3 หลักเกณฑ์ ง่าย ๆ ต่อไปนี้


I. กินอาหารหลายๆชนิดหมุนเวียนกันให้มีความหลากหลาย 4 กลุ่ม  ดังนี้

         1) ธัญพืช (ข้าวกล้อง)         2) พืชผัก 
        3) ผลไม้ ผลไม้ทุกชนิดมีประโยชน์ (มีวิตามินซี)  มะนาว  หรือผลไม้ เปรี้ยวๆ เช่น ตะลิงปิง  มะยม ส้มจิ๊ด มะเฟืองเปรี้ยว และ มะเขือเทศ ก็กินได้ เพราะมีประโยชน์สูงไม่จำเป็นต้องกินผลไม้แพงๆหรือผลไม้ต่างประเทศ
        4) ถั่วเมล็ดแห้งเช่น ถั่วเหลือง  ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วลิสง  ถั่วขาว ถั่วดำ หรือผลิตภัณฑ์จากถั่ว เช่น เต้าหู้  น้ำเต้าหู้(นมถั่วเหลือง) วุ้นเส้น ฟองเต้าหู้ หรือ โปรตีนเกษตร(เนื้อเทียม) หมี่กึน (gluten)  และเมล็ดต่างๆเช่นงาหรือเมล็ดทานตะวัน และไข่ หมุนเวียนกัน (ส่วนไขมันไม่ต้องห่วงเพราะมีอยู่แล้วในอาหารกลุ่มต่างๆ หรือในน้ำมันพืช)


II.  กินอาหารให้เพียงพอ  ไม่มากไม่น้อยเกินไป (ไม่อ้วนและไม่ผอม)


III กินอาหารธรรมชาติ ไม่ค่อยดัดแปลง (เช่น ข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือดีกว่าข้าวที่ขัดสีจนขาว และผักผลไม้สด ดีกว่า ผักผลไม้ดอง  ขนมปังโฮลวีต whole wheat ดีกว่า ขนมปังขาว) หลีกเลี่ยงอาหาร junk food ขนมหรืออาหารที่เน้นความอร่อยแต่มีคุณค่าทางโภชนาการน้อย ซึ่งมีแต่น้ำตาลและแป้งเช่น โดนัท ขนมเค็กและน้ำอัดลมหรือขนมขบเคี้ยวทอดกรอบต่างๆ


การกินอาหารมังสวิรัติง่ายมาก กินเหมือนที่คุณเคยกินทุกวันนั่นแหละแต่งดหรือเอาเนื้อสัตว์ทุกชนิดออก(รวมทั้งสัตว์เล็ก) แล้วแทนที่ด้วยถั่ว  (ดู ข้อ I.4)                                                      
                                                                                                  

อ้างอิง:
** The Secrets of Long Life” NationalGeographic-Nov2005 p 25
***Website ของ น.พ. โชติช่วง ชุตินธร:  www.doctorfreedom.com      พระเจ้าสร้างโลกและมนุษย์และสรรพสิ่ง  หรือ  เชื่อว่าทฤษฎี   วิวัฒนาการสร้าง  ?   ทฤษฎีวิวัฒนาการจริงหรือเท็จ ?
****
 Seventh-day Adventist Position Statement on Vegetarian Diets: http://www.adventistonline.com/forum/topics/the-seventh-day-adventist-position-statement-on-vegetarian-diets;    
Diet, Life Expectancy & Chronic Diseases by Dr. Gary Fraser ; Seventh-day Adventist Dietetic Association;

             
                  น.พ. โชติช่วง ชุตินธร (Chokchuang Chutinaton  MD)
                   (อดีตประธานและผู้ก่อตั้งชมรมผู้บริโภคแห่งสยาม)
           (Former Chairman and Founder of Consumers’ Club of Siam)              

 

              

bottom of page