หนังสือถึง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
Letter to Prime Minister Prayut Chan-O-Cha
วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
เรื่อง (1) โปรดอย่าให้ประเทศไทยร่วมลงนามในสนธิสัญญาอันตรายเรื่องโลกร้อน ที่ กรุงปารีส
(2) โปรดระงับการขึ้นภาษีรถยนต์ (ภาษีคาร์บอน ) เพราะถูกหลอกว่าโลกร้อน
เรียน ฯพณฯนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ประธานสภา) และตัวแทนประเทศไทยที่ถูกส่งไปลงนามในสนธิสัญญาที่อันตรายต่อประเทศชาติเรื่องโลกร้อนที่กรุงปารีส
สิ่งที่แนบมาด้วย: บทความเรื่อง โลกร้อนเป็นเรื่องไม่จริง เป็นเรื่องหลอกลวง (มีวาระซ่อนเร้น) โดย น.พ.โชติข่วง ชุตินธร
กระผมและประชาชนที่ตื่นตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขอเรียกร้อง ขอให้ท่านโปรดระงับการขึ้นภาษีรถยนต์ ที่จะเรียกเก็บเพิ่ม ในเดือน มกราคม พ.ศ. 2559 เนื่องจากเป็นการเก็บภาษีคาร์บอนด์ Carbon Tax การเชื่อว่าโลกร้อนขึ้นเพราะก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ CO2 เพราะฝีมือมนุษย์ ทำให้เราต้องเสียงบประมาณจำนวนมหาศาลไปกับการแก้ “ปัญหา”โลกร้อน ซึ่งไม่มีปัญหา และ ไม่ใช่ ปัญหา เราไม่ควรถูกหลอก!!
(ในอนาคตภาษีคาร์บอนจากรายการอื่นๆจะถูกเรียกเก็บตามมาเป็นแถว เช่นจากสายการบินต่างๆและน้ำมันและค่าไฟฟ้าจะแพงขึ้นเพราะผลิตจากโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือ fossil fuels)
มีนักวิทยาศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาจำนวนมากกว่า 31,000 คนลงนามคัดค้านและประท้วงว่า เรื่อง สภาวะโลกร้อน หรือ โลกร้อนขึ้นจากก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ CO2 เพราะฝีมือมนุษย์นั้น เป็นเรื่องไม่จริงเพราะขาดหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ แต่ในทางตรงกันข้าม มีหลักฐานมากมายทางวิทยาศาสตร์สนับสนุน ว่าการเพิ่ม CO2 ในอากาศ จะเป็นผลดีต่อพืชต่างๆ และสิ่งแวดล้อม (www.petitionproject.org)
ปัจจุบันภาวะเศรฐกิจไม่สู้ดี รายได้ถดถอยและค่าอาหารและค่าครองชีพแพงขึ้นและค่าเงินเฟ้อก็สูงขึ้นแล้วรัฐบาลยังจะซ้ำเติมความทุกข์เรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากรถยนต์ภาษีคาร์บอน (ค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็จะแพงขึ้น) ซึ่งภาษีคาร์บอน เป็นเรื่องหลอกลวงบนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ที่บิดเบือนเป็นเท็จ
ดังนั้นกระผมและประชาชนใคร่ขอให้ท่านนายกกรุณาระงับการขึ้นภาษีรถยนต์ หรือการเก็บภาษีคาร์บอนไว้ก่อนและต้องมีการศึกษาอย่างละเอียดจนเป็นที่แน่ชัดกว่านี้ อย่าเพิ่งด่วนทำตาม สหประชาชาติที่หลอกว่าโลกร้อนขึ้นเพราะฝีมือมนุษย์ เป็นการหลอกลวงมีวาระซ่อนเร้น ประเทศไทยไม่ควรร่วมลงนามในสนธิสัญญาเกี่ยวกับ “โลกร้อน” Treaty or Agreement on Global Warming or Climate Change เพราะ เรื่อง
“โลกร้อน”ไม่ใช่ปัญหาเพราะหากประเทศไทยร่วมลงนามแล้วจะยิ่งมีปัญหาเพราะจะเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจและอำนาจอธิปไตยของไทยและเป็นอันตรายต่อสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยของเราด้วย สนธิสัญญาโลกร้อน (Climate Change) มีอำนาจเหนือกว่ารัฐธรรมนูญของเรา สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทยที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญไทยจะถูกยึดและทำลายและเราก็จะตกเป็นทาสหรือตกอยู่ภายใต้การควบคุมของ ”รัฐบาลโลก” New World Order ซึ่งเป็นเผด็จการอย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลโลกมีอำนาจกำหนดและเก็บภาษีได้ตามอำเภอใจ (เช่น ภาษีคาร์บอน)
จึงกราบเรียนมาด้วยความเคารพและขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
ขอแสดงความนับถืออย่างสูง
น.พ.โชติช่วง ชุตินธร
อดีตประธานชมรมผู้บริโภคแห่งสยาม